นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายประโมทย์ ดำจวนลม พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีทุกระดับ องค์กร เครือข่ายงานพัฒนาชุมชน และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี มากกว่า 500 คน ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจราชการ และมอบนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนงานตามภารกิจของกระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน และเยี่ยมชมผลงานต่าง ๆ ที่จัดแสดงในนิทรรศการ รวมจำนวน 20 บูธ 

ในโอกาสนี้ นายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานเกี่ยวกับความสำเร็จและความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาชุมชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสามารถ สุวรรณมณี รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายสงัด พืชพันธุ์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ 

นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายสำคัญโดยกล่าวว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันนี้ในฐานะที่ดิฉันได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล ภายใต้การนำของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะคนใต้ ดิฉันมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มาพบปะพี่น้องประชาชนคนสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องเครือข่ายองค์กรสตรี และภาคีเครือข่ายงานพัฒนาชุมชน ดิฉันขอใช้โอกาสนี้มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน ให้สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งเน้น “4 เดือน แก้ 4 ภัย คืนความมั่นใจให้ประเทศ” โดยเฉพาะการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในระดับฐานราก และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคอย่างเท่าเทียม ซึ่งนโยบายและแนวทางที่ขอให้ทุกท่านร่วมกันขับเคลื่อน มีดังนี้

1) เพื่อสื่อสารนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย

2)มอบนโยบายการปฏิบัติราชการของกรมการพัฒนาชุมชนซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของดิฉัน

และ

3)สร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการ ผู้นำกลุ่ม/องค์กรเครือข่ายในงานพัฒนา ชุมชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที้

• โดยในส่วนของนโยบายสำคัญของรัฐบาลล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย

เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุลเป็นประธาน รัฐบาลมีโครงการที่สามารถดำเนินการได้ก่อนและเป็นประโยชน์กับชุมชนเช่น โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร และการ ส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftoop ในบ้านที่อยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี

ในส่วนของข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้การอำนวยการของนายอำเภอ รองผู้ว่าราชการ จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด และการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ดิฉัน ขอความร่วมมือ ขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนของเรา ให้สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งเน้น

"4 เดือน แก้ 4 ภัย คืนความมั่นใจให้ประเทศ" โดยมีแนวทางในการดำเนินงานดังนี้

1. บูรณาการความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคศาสนา ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ผู้นำกลุ่ม/องค์กรเครือข่าย และประชาชน

2. ส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน

อย่างยั่งยืน ด้วยกลไกกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นกองทุนพระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

3. ส่งเสริมอาชีพและรายได้ประชาชน สนับสนุนการสร้างอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพิ่มมูลค่าสินค้า และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานราก ผ่านทางกิจกรรมพัฒนาชุมชนที่มีจำนวนมากในพื้นที่ อาทิเช่น

* โครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

* โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

* กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี/ OTOP / โครงการโคกหนองนา

* กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต /โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน(กองทุน กข.คจ.) เป็นต้น

4. ยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP สู่สากล ด้วยการพัฒนาแบรนด์ บรรจุภัณฑ์

และนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยก้าวสู่ตลาดโลกอย่างภาคภูมิ

5. รักษาและยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่

ผู้บริโภคและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของชุมชน

6. เสริมภาพลักษณ์กรมการพัฒนาชุมชน ให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย โปร่งใส

เป็นมิตร และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ผ่านการสื่อสารที่สร้างสรรค์และเข้าถึงง่าย

7. ส่งเสริมความก้าวหน้าให้กับข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน ยกระดับสมรรถนะข้าราชการให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง พัฒนาองค์ความรู้ เปิดโอกาสให้ข้าราชการได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่

* จังหวัดสุราษฎร์ธานีของเรามีความพร้อมทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น และพลังของคนในพื้นที่ ดิฉันเชื่อมั่นว่า หากเราร่วมมือร่วมใจกันในทุกภาคส่วน จะสามารถผลักดันให้จังหวัดของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

* สุดท้ายนี้ ดิฉันขออำนวยพรให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกท่าน มีความสุข ความเจริญ และมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ขอบคุณค่ะ

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญชวนให้ประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าให้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายตามสิทธิโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม -31 ธันวาคม 2568

ในช่วงท้ายของกิจกรรม รัฐมนตรีช่วยฯ ได้ร่วมถ่ายภาพกับผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติในหลากหลายชุด รวมถึงถ่ายภาพร่วมกับ มวลชน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และกระตุ้นความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน การลงพื้นที่มอบนโยบายครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ กระทรวงมหาดไทย และ กรมการพัฒนาชุมชน ที่จะพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน

ในการนี้ นางละลินดา แดงก่อเกื้อ พัฒนาการอำเภอคีรีรัฐนิคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคีรีรัฐนิคม หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลทุกตำบล และคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัด เข้าร่วมรับมอบนโยบายฯ ณ กลุ่มโรงทอผ้าศรีวิชัย - ทับเที่ยง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี